หนีเมืองไปหาหมอก
ที่ “ดูเลเล บ้านแห่งความคิดถึง” กัลยาณิวัฒนา
❝ ที่นี่ไม่ใช่รีสอร์ตหรู...แต่เป็น “บ้านเล็กกลางขุนเขา” ที่ทำให้เราได้คิดถึงความสุขเรียบง่ายอีกครั้ง ❞
หลังจากใช้ชีวิตอยู่กับความเร่งรีบมาทั้งปี เลยอยากหาที่พักใจสักแห่ง — ที่ไม่ต้องมีไฟนีออนระยิบระยับ ไม่ต้องมีเสียงรถผ่านแสบแก้วหู แต่อยากได้แค่เสียงลม เสียงนก และไอหมอกยามเช้า และนั่นทำให้ฉันมาหยุดอยู่ที่ “Doolaylay บ้านแห่งความคิดถึง” ในอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่
ออกเดินทางจากปทุมธานี

เราจองตั๋วรถไฟออกเดินทางจากปทุมธานี ในเวลา 20.30 น. เพื่อมุ่งสู่เชียงใหม่ ใช้เวลาอยู่ในตู้รถไฟ ครั้งแรก แบบรู้สึกดีมาก มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แอร์เย็น มีที่ชาร์ตไฟให้ เพราะเราเลือกนอนชั้นล่าง ในราคาพันนิดๆ แม้ระหว่างการเดินทาง ไม่รู้ว่า เพราะความตื่นเต้นหรือเพราะแอร์เย็น หรือไม่คุ้นชิน กับเสียงล้อที่กระทบลาง เรียกว่า นอนไม่เต็มตื่นเท่าไร ถือเป็นประสบการณ์แบ็คแพ็ค ครั้งแรกที่โอเคอยู่

นั่ง ๆ นอนๆ ดูซีรีย์ นอนไถ่มือถือ เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง สถานทีเชียงใหม่แล้ว
หลังจากนั้น จึงเดินทางต่อ โดยเลือกใช้บริการตุ๊กๆ เหมาไปกับพี่สองคนในราคา 140 บาท แต่ถ้าใครไม่รีบ สามารถรอรถสองแถว ราคาไม่กี่สิบบาทเพื่อไปสองแถว เพื่อต่อเข้า กัลยาณิวัฒนาได้นะคะ

ในระหว่างการเดินทางตุ๊ก ๆ มีสายฝนอ่อน ๆโปรยลงมา ได้สัมผัสกลิ่นไอฝน ชมวิวในเชียงใหม่ นับว่าเป็นอีกประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืม เราใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ถึงท่ารถเหลืองเพื่อเข้าไป กัลยาณิวัฒนา

ขาไป : เชียงใหม่ - กัลยาณิวัฒนา
เวลา : 09.00 น. และ 11.00 น.
บอกคนขับว่า “ลงหน้าโฮมสเตย์ ดูเลเล บ้านแม่แดดน้อย”
ขากลับ : กัลยาณิวัฒนา - เชียงใหม่
เวลา : 07.00 น. และ 08.00 น.
รถจะออกจากตัว อ.กัลยาณิวัฒนา ตรงเวลาและจะมาถึง ดูเลเล ประมาณ 07.30 น. และ 08.30 น. ต้องออกมายืนดักรอริมถนนหน้าที่พัก หรือโทรนัดคนขับล่วงหน้า หรือให้ทางดูเลเลโทรนัดหมายให้กับคนขับให้
ค่าโดยสารคนละ 150 บ./เที่ยว
ใช้เวลาเดินทาง 4 – 4.30 ชั่วโมง เพราะรถจะจอดพักที่ตลาดสะเมิง 20-30 นาที


ระหว่างทางในความสวยงาม ของธรรมชาติ ก็พาให้เพลิดเพลินไม่น้อย แต่ด้วยโค้งมากมายเหลือเกิน ข้างในมันอัดอั้นไม่ไหว อ้วกพุ่งเลยจ้าาาา เพราะโค้งเยอะจริงๆ แถมพี่คนขับ ขับอย่างเร็ว เหวี่ยงทุกโค้ง เล่นจนอ้วกพุ่ง
พอมาถึงที่หมาย “Doolaylay บ้านแห่งความคิดถึง” เป็นที่พักตั้งอยู่บนเนินเขา บรรยากาศดีโครตๆๆๆ


บ้านไม้กลางหมอก…ที่ทำให้ใจเงียบลง
ดูเลเลเป็นบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่กลางขุนเขา รายล้อมด้วยต้นไม้และไร่ชา บรรยากาศเงียบสงบจนได้ยินเสียงธรรมชาติจริง ๆ
ตอนเช้า แค่เปิดหน้าต่างออกไปก็เห็น ทะเลหมอกไหลผ่านยอดไม้ เหมือนภาพในฝัน อากาศที่นี่ต้องบอกเลยว่า สุดยอดดดดโครตๆ มันดีมากดีเวอร์ คือดีจริง

วิถีชีวิตที่ยังมีรอยยิ้ม
ช่วงสายๆ เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ผู้คนที่นี่เป็นมิตรมาก ไปนั่งกินข้าวร้านในชุมชนที่อยู่ราคาไม่แพง แต่ได้วิวหลักร้าน แถมแม่ค้า ยังนำอโวคาโดมาให้ลองกินด้วยนะ ที่นี่สด มัน อร่อยไม่เหมือนใคร
ทริปนี้ไม่มีหรูหรา…แต่มีความสุขเต็มหัวใจ



ช่วงเย็นๆ ที่พักพาไปดูพระอาทิตย์ตกที่ "เนินไม่มีชื่อ"

บรรยากาศอย่างกับในหนัง วิวโครตดี ดีมากๆๆๆๆ แต่เสียดายที่ฝนไล่ จึงทำให้ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตกในวันนั้น

หลังจากลงมาจากเนินไม่มีชื่อก็มาลอง พิซซ่าหน้าเห็ดถอบจะขายดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีหน้าอื่น ๆ อีก เช่น แฮมชีส เบคอน อโวคาโด ที่จริงอร่อยทุกหน้าแหละ เพราะเค้าใช้วัตถุดิบคุณภาพดี
ตกกลางคืนที่พักมีอาหารพื้นบ้านรอรับ

และบรรยากาสฟินๆ จากเพื่อนเดินทางที่ไม่รู้จัก มาหนังพิงไฟกันหนาวกัน มันโครตดีเลยละเธอ

ถ้าใครกำลังมองหาที่พักสงบ วิวสวย อากาศเย็นตลอดปี
อยากให้ลองมา “ดูเลเล” สักครั้ง แล้วคุณจะเข้าใจคำว่า
“บ้านแห่งความคิดถึง” อย่างแท้จริง

บางครั้งเราคิดว่าความสุขต้องอยู่ไกล ต้องเดินทางแพง ๆ แต่จริง ๆ แค่ได้กลับมาใช้ชีวิตช้า ๆ ในที่แบบนี้ก็เพียงพอแล้ว

Doolaylay ต้องจองล่วงหน้าก่อนไปพักเท่านั้น วิธีจองคือ inbox เข้าไปสอบถามใน Facebook Page
ถ้าจองได้ มีค่าใช้จ่าย 1,000 บาท/คน รวมที่พัก, อาหาร 3 มื้อ, กิจกรรมพาออกไปเที่ยวรอบ ๆ บ้าน หนึ่งรอบต่อวันโดยอิงตามฤดูกาล เช่น นาขั้นบันไดในฤดูฝน ดูทะเลหมอกหรือดูพระอาทิตย์ตกในฤดูหนาว
ข้อมูลเล็ก ๆ สำหรับตามรอย