พิชิตภูชมดาว สัมผัสอากาศหนาว บนยอดเขาสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะลที่ ภูสอยดาว

สัมผัสอากาศหนาว เดินฝ่าดงฝนและสายหมอกสูดออกซิเจนได้เต็มปอด ชม"ดอกหงอนนาค" ชูคออย่างสง่า

อ่าน : 11,400 ครั้ง

พิชิตภูชมดาว สัมผัสอากาศหนาว บนยอดเขาสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะลที่ ภูสอยดาว

"การเดินทางคือการเรียนรู้" เป็นสำนวนที่จับต้องได้ และทำได้จริง! 

 

สัมผัสอากาศหนาวบนยอดเขา พร้อมกับความตื่นเต้นกับสายฝนตลอดทั้งคืน เมฆหมอกหนากว่าฝุ่นละอองในเมืองหลวง สูดออกซิเจน ได้เต็มปอด ! เป็นประสบการณ์ที่ยากที่จะลืม ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปสัมผัสให้ได้

 

 

บอกเลย!..มันเป็นความทรงจำที่ดีมาก
กับการเดินลัดเลาะท่องป่า ท่ามกลางสายหมอก ฝ่าดงสายฝน ความตื่นเต้น มันระทึกทุกย่างก้าว

 

ออกเดินทางจาก กทม. ประมาณสองทุ่มไปถึงจุดรวมพลประมาณตีห้า รวม ๆ แล้วประมาณ 9 ชม. เป็นการเดินทางที่นานมากก!! ดีที่เช่ารถตู้เหมาคัน ได้แอบงีบเอาแรงไว้เดินตอนเช้า หลับกันยาวๆไป.. เช้ามาถึงตีนดอยพอดี ตื่นเต้นมาก!!  เห็นหมอกเป็นหย่อมๆ บรรยากาศเย็นนิดๆ เอียงหูฟังได้ยินเสียงน้ำตกไกลๆ ช่างเป็นบรรยกาศฟินน!! เฟ่อออ ...

 

จุดรวมพลก่อนเดินขึ้นลานสน

 

ได้ยินเสียงน้ำตกแล้วชื่นใจ

 

รู้ก่อนเดินขึ้นยอดดอย หรือ ลานสน
การเดินทางสู่ยอดลานสนต้องขึ้นเขาลาดชันเกือบตลอดเส้นทาง และผ่านเนินต่าง ๆ ที่มีชื่อบอกถึงความยากลำบากในการเดินผ่านแต่ละเนิน

เนินส่งญาติ  กว่าจะขึ้นมาได้สมชื่อครับ เหมือนต้องให้ญาติแบกมาส่ง 

เนินปราบเซียน  ถ้าเก่งจริงผ่านเนินนี้ไปให้นะน้อง .. อะไรจะขนาดนั้นนนนน

เนินป่าก่อ  เนินนี้สบาย ๆ หน่อยไปถึงเจอหมอกสวยมาก (โชคดีมีหมอกพอดี)

เนินเสือโคร่ง   เนินดีเดินเรื่อย ๆ ทาง เป็นเนินบางเรียบบ้าง 

เนินมรณะ  เนินสุดท้าย ที่มีความสูงชันมากที่สุด จุดนี้ถ่ายรูปสวยที่สุด 

 

เส้นทางที่เดินขึ้นไปนั้นไม่ยุ่งยากเพราะจะเดินไต่เขาขึ้นไปตามสันเขาไม่มีทางแยกไปไหน ระยะทางเดินเท้าขึ้นลานสนประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5-6 ชั่วโมง เดินไปเรื่อยๆ  

 

จุดเริ่มต้นของเราวันนี้ 

 

ยอดเขาสูงอันดับ 4 ในสยาม ไปพิชิตมาให้ได้ 

 

จัดเตรียมสัมภาระเสร็จเรียบร้อย พร้อมเดินทางขึ้นยอดดอยลานสน 6.5 กม. โอ้ยยยยยย! ชิวมากบอกเลยแค่นี้เอง?  10 กม. ยังวิ่งมาแล้ว พกใจมาเต็มเปี่ยม เตรียมร่างกายมาเกินร้อย แค่นี้จิ๊บ ๆ 

 

มีเพื่อนร่วมทางหลายคนเดินไม่เหงาแน่นอน 

 

พักเหนื่อย และถ่ายรูปกันยาวไป 

 

สองข้างทางได้ยินสินน้ำตกตลอดเวลา หันซ้าย-หันขวา ก็มีแต่ต้นไม้กับสายฝน ถ่ายรูปเพลิน ๆ มีเพื่อนร่วมทริปให้คุยกันหลายคน บอกเลย "มันดีมาก"

 

ถ้าเหนื่อยนัก ... ก็นั่งพักได้ตลอดเส้นทาง 

 

รักธรรมชาติ

 

เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก เก็บภาพได้ตลอดทาง

 

เฉิดฉายในป่าลึก

 

ดูรูปมาถึงตรงนี้ขอแนะนำเพื่อน ๆ นิดนึงนะครับ สำหรับใครไปครั้งแรก  รูปต่อไปนี้ถ่ายตรง เนินมรณะ  เนินสุดท้าย ที่มีความสูงชันมากที่สุด ได้รูปถ่ายชุดนี้มาโดนความบังเอิญมาก แวะพักเหนื่อยเนินนี้ เหนื่อยโครตจริง  ๆ  ตอนพักมีหมอกปกคลุมหนามาก มองไม่เห็นอะไรเลย  นั่งพักแป๊บเดียวมีลมพัดเอาหมอกออกเห็นเนินและภูเขาฝั่งตรงข้าม เห็นเส้นทางที่เราเดินผ่านขึ้นมา บร๊ะเจ้า!!? ตกใจมาก!!!  นี่เราเดินบนสันเขาหรือนี่ แต่ในความตกใจ ยังมีสตินิดหน่อยรีบบอกให้เพื่อน ๆ ไปยืนตรงหน้าผาหิน และได้รูปสวย ๆ เท่ ๆ  พอถ่ายรูปเสร็จปุ๊บ หมอกมาทันที ฝนฟ้าอการกาศชั่งเป็นใจอะไรเช่นนี้ 

 

"ใครที่ชอบถ่ายรูปต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลานะครับ   อย่าลืมเอาถุงหรืออุปกรณ์ป้องกันน้ำเข้ากล้องไปด้วยนะครับ ไม่รู้ฝนจะตกตอนไหน"

 

ชื่นชมกับธรรมชาติสร้างสรรค์

 

เก็บภาพให้ได้มากที่สุด

 

ชื่นใจ สดชื่นที่สุด

 

สาวน้อยเดินเก่งมาก

 

พักถอนหายใจแป๊บน่าาา!! 

 

สง่าและยิ่งใหญ่มาก

 

ในที่สุดเราก็พิชิต "ภูสอยดาว" จนได้ เป็นอะไรที่ภูมิใจมาก!! เห็นลานสนแล้วหายเหนื่อยเลย

 

เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก พิชิตภูสอยดาว

 

รีบย่ำเท้าไปสู่ลานกางเต็นท์

 

 


ถึงลานกางเต็นท์แล้ว

 

 

 

 

มาถึงลานสนแล้วรีบเก็บสัมภาระเอนกายพักผ่อนทำกิจกรรมส่วนตัว หลังจากนั้นถ่ายรูปต่อยาวๆไป !! 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ถ้าใครมีโอกาส ต้องไปโดนเอง! เพื่อนเล่าให้ฟังเป็นร้อยครั้ง อ่านรีวิวกี่หมื่นรอบ ก็สู้ไปสัมผัสบรรยากาศ และประสบการณ์จริงไม่ได้ ประสบการณ์มันต้องฝังลึกอยู่ในกล้ามเนื้อของเรา ต้องเมื่อย ต้องเหนื่อย! ต้องอุทานออกมา "กู!! มาทำอะไรที่นี่วะ" และก็ยิ้มให้เพื่อนร่วมเดินทาง นึกในใจมึงก็คิดเหมือนกูใช่มั้ย?

 

"ภูสอยดาว" เป็นที่เดียวที่ "ดอกหงอนนาค" ขึ้นเองตามธรรมชาติ ต้องไปดูให้ได้ (บิ้วซะขนาดนี้ อยากให้ไป!!)

 

อากาศโครตเย็น ในป่าที่เขียวขจี รัศมีการมองสุดลูกหูลูกตาสัมผัสความสดชื่นของป่าในฤดูฝน มันเป็นอะไรที่โหด!! แต่มันส์โครต!!!

อ่านจบแล้วไปจัดกระเป๋า .. โล้ดดด!

 

ทริปนี้ขอจากไปด้วยภาพสุดโรแมนติก นั่งดูหมอกหนา ๆ กับคนรู้ใจ สุขใดเล่าจะเท่ามีเธอ 

 

#ภูสอยดาว #เดินป่า #ดอกหงอนนาค #อุตรดิตถ์ #พิษณุโลก #ฤดูฝน

เดินทางในวันที่ 23-25 สิงหาคม 2562 

เพื่อนร่วมทริป 30 คน 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติน้ำปาด ครอบคลุมพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ และจ.พิษณุโลก

ช่วงเวลาท่องเที่ยว: กรกฎาคม-มกราคม (กลางเดือน)

 

สัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่
1.บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ : AIS, TRUE
2 บริเวณลานสน : AIS, TRUE
ช่วงเดินขึ้นลานสน AIS ใช้ได้เรื่อย ๆ พอไปถึงลานสน AIS ต้องเดินหาคลื่น ส่วน TRUE ไม่ต้องเดินหา

 

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว สามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.

โทร 0 5543 6793, 095 629 9528
ติดต่อ ที่พัก อาหาร เต็นท์ ลูกหาบก่อนขึ้นลานสน ล่วงหน้าก่อน 3-4 วัน

 

แผนที่

 

ท่องเที่ยวแนะนำ